วันนี้ (15 ส.ค.) ตำรวจรวบตัวนายคำจันทร์ หรือจันทร์ โพธิ์ถาวร อายุ 49 ปี หลังก่อเหตุยิง นายจิรายุท หรือ ชาตรี บุษดี อายุ 42 ปีเสียชีวิต เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ส.ค.) โดยนายคำจันทร์ได้เข้าไปหานายจิรายุท ขณะนอนเล่นอยู่เปลข้างยุ้งข้าวบ้านของตนเองในจ.อุดรธานี และยิงเข้าที่บริเวณศีรษะด้านขวาจนล้มกลิ้งตกเปลทันที และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในคืนเดียวกัน
สาเหตุของการยิงครั้งนี้ มาจากการที่ลูกชายวัย 14 ปีของนายคำจันทร์
ไปติดพันนายจิรายุทที่มีคดียาเสพติด จนไม่ยอมกลับบ้านและไม่ไปโรงเรียน อีกทั้งยังได้ยินข่าวว่า นายจิรายุท ใช้ให้ลูกชายของตนไปส่งยาเสพติด ทำให้ผู้เป็นพ่อห่วงว่าลูกชายจะหวนไปติดยาเสพติดอีก
จุดแรกที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายคำจันทร์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายคำจันทร์ถือปืนลูกซองยาวยี่ห้อ วินเชสเตอร์จากบ้านของตนเองที่อยู่อีกฟากของถนนบ้านหนองบัวแดง และไปดักซุ่มหลังกำแพงบ้านของนายจิรายุท โดยทำอย่างใจเย็น ค่อยๆ ใช้ปืนพาดกำแพงเล็งไปที่ศีรษะก่อนลั่นไกไปหนึ่งนัดและโดนนายจิรายุทจนตกลงจากเปลทันที
จากนั้นนายคำจันทร์ก็หนีกลับไปบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และนำปืนก่อเหตุไปซ่อนใต้ยุ้งข้าวบ้านตนเอง โดยการทำแผนฯ มีชาวบ้านมาดูจำนวนมากและต่างสงสารนายคำจันทร์ที่ตัดสินใจยิงคนตายเพราะห่วงลูกชายจะไปติดยา
นายคำจันทร์เล่าว่า ตนตับแค้นใจมานาน เพราลูกชายเรียนอยู่เพียงชั้นม. 1 เมื่อได้ยินว่านายจิรายุทที่ลูกชายไปติดพันนั้นใช้ให้ลูกชายตนไปส่งยา โดยขู่ว่าถ้าไม่ทำจะฆ่าให้ตาย แม้ว่าได้ไปบอกและเตือนผู้ตายหลายครั้งว่าอย่าเอาลูกชายตนไปเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ผู้ตายก็ไม่ฟัง อย่างไรก็ตาม ก็ยอมรับผิดว่า เป็นอารมณ์ชั่ววูบ คิดแต่เพียงว่า หากไม่มีนายจิรายุทแล้ว ลูกชายก็คงไม่ไปทำแบบนั้น
ด้านนายสุบรรณ สุขใจ อายุ 71 ปีพ่อตานายคำจันทร์เล่าว่า สาเหตุที่นายคำจันทร์คับแค้นใจขนาดนี้เพราะ ลูกชายวัย 14 ออกจากสถานบำบัดยาเสพติดได้เพียง 2 วัน ก็ไม่กลับเข้าบ้าน และไปขลุกอยู่กับนายจิรายุท เมื่อพ่อไปตามนายจิรายุทก็จะหลอกว่าให้ลูกชายนายคำจันทร์ไปสูบน้ำเข้านา แต่จริงๆ แล้วนายจิรายุทให้เด็กไปวิ่งยาที่อ.ศรีธาตุและอ.วังสามหมอ
แม้ว่าตนจะเคยบอกลูกเขยไปแล้วว่าให้เป็นเรื่องของกฎหมายเมื่อลูกเขยมาปรึกษาว่าจะก่อเหตุ แต่สุดท้ายก็ยังคิดว่าหากไม่มีนายจิรายุทลูกก็คงไม่ไปยุ่งกับยาเสพติด มารู้ข่าวอีกครั้งลูกเขยก็ฆ่านายจิรายุทตายแล้ว ตนเสียใจมาก ไม่คิดว่าลูกเขยจะคิดสั้นแบบนี้ และลูกสาวตนซึ่งเป็นภรรยานายคำจันทร์ ตอนนี้ทำงานอยู่ประเทศอิสราเอล เมื่อรู้ข่าวนี้ก็ร้องไห้แทบไม่หยุด
เด็กตอบไม่ได้ 1กิโล มีกี่กรัม ครูโหดจับล็อกคอตบหน้า หลังเกิดเหตุพบ ผอ.แค่เรียกตักเตือน
ครูตบหน้านักเรียน – กลายเป็นคลิปถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ขณะนี้ หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ขณะเด็กนักเรียนชายโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ถูกครูจับล็อกคอก่อนตบเข้าบริเวณหน้าผาก โดยเหตุมาจากที่เด็กตอบผิดว่า 1 กิโลกรัมมีกี่กรัม
แคปชั่นในโพสต์ระบุว่า “ครูมีหน้าที่อบรมสั่งสอน แต่การกระทำของครูบางคนก็แลดูเกินไป #โรงเรียนใหญ่ประจำอำเภออรัญประเทศอ คนเป็นพ่อแม่ มีลูกหลานเรียนอยู่ ก็เตรียมใจไว้แล้วว่าลูกหลานจะต้องถูกลงโทษบ้าง อาจมีโดนไม้เรียวฟาดบ้างในกรณีที่เด็กทำผิด แต่ล็อคคอตบนี้ไม่คาดคิด คนเป็นพ่อแม่หลายคนยังไม่เคยตบหน้าลูกตัวเอง ก้านมะยม ไม้เรียว บทลงโทษอื่นๆมีมากมาย ฝากผู้หลักผู้ใหญ่ตรวจสอบค่ะ #แชร์ช่วยกันเพื่อความปลอดภัยลูกหลานท่าน“
เมื่อเรื่องดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีรายงานข่าวว่า ครูคนดังกล่าวสอนวิชาคณิตศาสตร์ เกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ถูกเรียกกลับมาสอนต่อ โดยประธานเครือข่ายผู้ปกครองชั้นม.4ของโรงเรียนนี้ ได้รายงานว่า เมื่อเหตุดังกล่าวถูกโจษจัน ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกครูคนดังกล่าวไปว่ากล่าวตักเตือน แต่ยังไม่มีบทลงโทษใด ๆ
นอกจากนี้เด็กนักเรียนคนอื่น ยังเล่าด้วยว่า ครูในคลิปชอบพูดคำพูดล่อแหลมกับเด็ก ทั้งเปิดแต่หนังผู้ใหญ่ให้ดู ผู้ปกครองได้แนะนำให้อัดเสียง หรือให้ถ่ายคลิปไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
แท็กซี่เผาตัวตาย – จากกรณี นายสมชาย บรรลุดี อายุ 60 ปี จุดไฟเผาตัวเองภายในรถแท็กซี่สีเหลือง ทะเบียน 7กก1605 กรุงเทพมหานคร บริเวณลาดจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สมุทรสาคร ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อาการสาหัสนั้น คืบหน้าล่าสุดนายสมชายเสียชีวิตแล้วเมื่อเช้าวันนี้ (15 ส.ค.)
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่านายสมชายขับรถมาคุยกับคนขับรถแท็กซี่คิวดังกล่าวอยู่นานประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะขับรถออกไปและวนกลับมา จุดไฟเผาตัวเองคารถในท้ายที่สุด สอดคล้องกับคำให้การของภรรยานายสมชายว่า สามีบอกว่าจะไปเคลียร์ปัญหากับเพื่อนแท็กซี่
เมื่อสืบสาวไปพบว่า จริง ๆ แล้วนายสมชายเคยเป็นคนขับรถแท็กซี่คิวห้างบิ๊กซี แต่ด้วยปัญหาสุขภาพ และรถแท็กซี่หมดอายุจึงเลิกขับไป จนกระทั่ง 1 ปีก่อนนายสมชายขอกลับมาขับขี่รถอีก แต่ก็มีประเด็นเรื่องสภาพตัวรถและมิเตอร์ไม่ถูกต้อง ทำให้ถกเถียงกับเพื่อนร่วมคิวเรื่องดังกล่าว
กระทั่งก่อนเสียชีวิตที่บอกภรรยาว่าจะมาเคลียร์ปัญหา ทางเพื่อนร่วมวินก็บอกว่าได้คุยกันเรื่องประเด็นรถข้างต้นนี้ จนทำให้นายสมชายมีอาการไม่พอใจ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโศกนาฎกรรมดังกล่าว เนื่องจากเพื่อน ๆ เล่าว่านายสมชายมักเป็นคนขี้น้อยใจ แต่อย่างไรก็ดีก็ต้องสืบหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป